เนื่องจากเหตุการณ์ฝุ่นละอองบุกกทม. เราจึงเห็นคนกรุงเทพฯจำนวนไม่น้อยใส่หน้ากากอนามัยเดินออกนอกบ้าน เป็นภาพที่เห็นแล้วไม่คุ้นเคยแปลกตาในระยะแรก แต่สำหรับในประเทศญี่ปุ่นการสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านไปในสถานที่สาธารณะนั้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาม๊ากมากตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คนญี่ปุ่นจึงคุ้นเคยกับการใส่หน้ากากมาตั้งแต่เด็ก เพราะเค้าสอนและใส่กันมานานเน้นเรื่องความสะอาด เช่น ต้องล้างมือ กลั้วคอ สวมหน้ากาก คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใส่หน้ากากอนามัยด้วยเหตุผลหลักเพื่อป้องกันละอองเกสร เพื่อป้องกันไม่ให้หวัดแพร่กระจายไปสู่คนอื่นโดยเฉพาะจากการไอ จาม น้ำมูกไหล รวมทั้งเมื่ออากาศหนาวมาก ๆ พอใส่หน้ากากมันก็ช่วยให้อบอุ่นดีอีกตะหาก และก้อไม่ได้ใส่เพราะเรื่องสุขภาพอย่างเดียว วัฒนธรรมที่สร้างให้คนญี่ปุ่นค่อนข้างเก็บตัวไม่ชอบสุงสิงพูดคุยกับใครมากนัก บางทีคนญี่ปุ่นก็ใส่หน้ากากด้วยเหตุผลทางด้านจิตใจ คือ รู้สึกปลอดภัยที่คนอื่นไม่เห็นหน้าตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่าไม่ได้แต่งหน้า หรือรู้สึกว่าตัวเองหน้าตาไม่ดีเลยไม่อยากให้ใครเห็น หรืออยากเลี่ยงการพูดคุยกับใครต่อใครด้วย ตรงกันข้ามนี่ถ้าไปใส่ให่อีตาทรัมป์เห็นที่อเมริกาละก้อ คงต้องถูกล๊อกตัวตรวจค้นอาวุธวุ่นวายอลหม่านกันแน่นอน 5555 อ้าวแล้วถ้าคนอเมริกันป่วยไม่ใส่หน้ากากกันเหรอ เท่าที่ทราบคือเค้าจะหยุดงานกันเลย(ดีจังแหะ555)
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วการลางานเป็นเหมือนเรื่องใหญ่โตคอขาดบาดตาย เป็นเหมือนการทำผิดมหันต์ ดังนั้นจะป่วยอย่างไรถ้าไม่ถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อคนญี่ปุ่นก็ต้องไปทำงาน นี่อาจจะเป็นที่มาแห่งการใส่หน้ากากอนามัยกันทั่วเมืองด้วย ในเมื่อเหตุผลการใส่หน้ากาก(อนามัย)มีมากเหลือเกินดังกล่าว หน้ากากอนามัยที่ญี่ปุ่นจึงมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้กันอย่างนับไม่ถ้วนเลยค่ะ ไม่ว่าจะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขายทั่วไปหรือรูปทรงที่ปรับให้เข้ากับโครงหน้า ซึ่งต่างก็มีคุณสมบัติและคุณภาพที่หลากหลาย บางแบบใส่แล้วหายใจสะดวกกว่า บางชนิดก็ช่วยให้ไอร้อนจากลมหายใจไม่ไปทำให้แว่นตาที่สวมพลอยขมุกขมัวไปด้วย บางอย่างใส่สบาย ไม่เจ็บหู บางแบบมีกลิ่นหอมด้วย (หน้ากากทรงที่ปรับเข้ากับโครงหน้าจะดูตลกๆเพราะมันดูเหมือนยอดมนุษย์สายพันธุ์ใหม่หรือกลายพันธุ์555) แต่เมื่อได้ใส่แล้วพบว่ามันกลับใส่สบาย
แม้แต่หน้ากากอนามัยที่ใส่แล้วเครื่องสำอางค์ไม่หลุดเลาะเทอะ รองพื้นหรือลิปสติกจะไม่ติดหน้ากากอนามัยที่สวมอยู่ ญี่ปุ่นเค้ายังมีหน้ากากอนามัยแบบใส่แล้วหน้าดูเรียวเล็ก เพราะครึ่งล่างของหน้ากากซึ่งเป็นบริเวณคางเขาตัดให้เว้าเข้ามีทั้งขนาดเด็กเล็ก ธรรมดา และใหญ่สำหรับผู้ชาย หน้ากากอนามัยจึงมีความสัมพันธ์และมีความหมายต่อการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว ประเทศของเราน่าจะเห็นความสำคัญของการสวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่นหรือเชื้อโรคเพื่อชะลอปัญหาสุขภาพกันบ้าง เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงม๊ากกกกกก ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการรักษาอย่างแน่นอนค่ะ ตอนต่อไปจะกล่าวถึงประเภทของหน้ากากและราคาที่เหมาะสมกันค่ะ
Cr ภาพประกอบจาก https://wowma.jp